บทความ

ต้องไม่อดอาหาร

ต้องเข้าใจก่อนว่า ร่างกายของคนเรายังต้องการพลังงานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การหักโหมอดอาหาร แม้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่สุขภาพกลับถดถอยลง แถมยังเสี่ยงกับเอฟเฟกต์โยโย่อีกด้วย

ดังนั้นควรเปลี่ยนจากการ “อด” เป็น “ลด” ด้วยหลักการง่ายๆ “หนักเช้า เบาเย็น” คือเน้นมื้อเช้าให้หนักแล้วค่อยๆ ลดหลั่นลงไปจนถึงมื้อเย็น

มื้อที่เน้นหนักแนะนำให้ทานเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนพวกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือข้าวควินัว จะช่วยให้อิ่มนานขึ้น ส่วนมื้อเย็นให้เน้นเป็นผักผลไม้หลากสีและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพียงเท่านี้ก็จะได้ทั้งผลลัพธ์ที่น่าพอใจและสุขภาพดีควบคู่กันได้

อย่าปล่อยให้หิว

ช่วงที่ลดน้ำหนักหลายคนมักวาดภาพตัวเองไว้ในใจ ว่าต้องมีหุ่นเฟิร์มและอยากเห็นผลลัพธ์โดยเร็ว จนทำให้กดดันและเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำในระหว่างการลดน้ำหนักคือ การสร้างกรอบและกดดันตัวเองจนเครียดเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยให้ตัวเองหิวจัด ร่างกายจะกระตุ้นฮอร์โมนที่ชื่อคอร์ติซอล (Cortisol) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อฮอร์โมนแห่งความเครียด ทำให้สมองและร่างกายเกิดความอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารหวานและมันสูง เพื่อเป็นพลังงานไประงับการกระตุ้นความเครียด ซึ่งอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยน้ำตาลและไขมันเลวสูง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ตัดวงจรการดูแลน้ำหนัก แถมยังทำให้ร่างกายพัฒนาไปเป็นโรคอ้วนได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วนอีกด้วย ดังนั้นในแต่ละมื้ออาหารควรทานให้อิ่มพอดี และเลือกทานเป็นอาหารที่ช่วยอิ่มท้องนาน จะได้ไม่หิวระหว่างวัน หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ แนะนำให้ทานผลไม้แทนขนมและของหวาน

เนื้อสัตว์ไม่ได้ทำให้น้ำหนักขึ้นเสมอไป

หลายคนที่ลดน้ำหนักมักจะเข้าใจว่าต้องทานผักผลไม้ให้เยอะขึ้น งดของมัน ของทอด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่กินแล้วจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในความเป็นจริงเราสามารถทานเนื้อสัตว์ได้และไม่ได้ทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นเสียทีเดียว อีกทั้งร่างกายยังต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพื่อนำไปซ่อมแซมเซลล์ในร่างกายที่สึกหรอ เพียงแต่ต้องดูให้ดีว่าเนื้อสัตว์ที่ทานนั้น เป็นส่วนที่ไม่มีชั้นไขมันแทรกอยู่ เพราะไขมันที่แทรกอยู่ตามมัดกล้ามในเนื้อสัตว์ต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรืออ้วนมากขึ้น จึงขอแนะนำให้เลือกทานเป็นเนื้อสัตว์ในส่วนที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้ออกไก่ สันในไก่ สันในหมู เป็นต้น

ฟิตหุ่นอย่างน้อย 30 นาที

อยากจะฟิตหุ่น ดูแลน้ำหนัก นอกจากดูแลควบคุมอาหารในแต่วัน ให้ได้รับพลังงานและแคลอรีที่เหมาะสมกับช่วงลดแล้ว การออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือเฉลี่ยให้ได้ 150 - 300 นาที ต่อสัปดาห์ จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเบิร์นไขมันส่วนเกิน ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและสาเหตุของโรคต่างๆ อีกมากมายให้ถูกกำจัดออกไป สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายอย่าฝืนตัวเอง โหมเร่งสปีดออกกำลังตั้งแต่นาทีแรก เพราะนอกจากจะหมดแรงไปก่อนแล้ว ยังทำให้เป้าหมายในการเบิร์นไม่สำเร็จอีกด้วย อาจจะเริ่มต้นด้วยการเดินเร็วพร้อมแกว่งแขน ต่อเนื่อง 30 นาที และทำติดต่อกันอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นในการลดน้ำหนักที่มาพร้อมสุขภาพดีได้แล้ว